บาคาร่า (baccarat) เป็นชื่อที่คุ้นหูใครหลายคนในเวลานี้ แต่รู้หรือไม่ว่ามีหลักการเล่นคล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง จะแตกต่างกันในส่วนของการกฎการเรียกไพ่ จำนวนไพ่ที่ใช้ในการเล่นแต่ละครั้ง ซึ่งกำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศที่เปิดให้บริการคาสิโนอย่าง กัมพูชา พม่า ลาว มาเลเซียและสิงคโปร์

กฎและกติกา

1.การแจกไพ่ทุกครั้งจะหงายไพ่ขึ้นเสมอทั้ง 2 ฝ่าย Player และ Banker

2.การแจกไพ่ครั้งแรกจะให้ฝ่ายละ 2 ใบ ถ้า Player แต้มรวมกันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 แต้ม (0,1,2,3,4,5) จะได้เรียกไพ่เพิ่ม หากแต้ม 2 ใบแรกรวมกันมากกว่า 5 แต้ม (6,7,8,9) ไม่จำเป็นต้องเรียกไพ่เพิ่ม

3.การแจกไพ่ Banker จะต่างกับการแจกไพ่ให้กับ Player คือ

เมื่อไพ่ของ Banker แต้มรวมกันเท่ากับหรือน้อยกว่า 2 แต้มให้เรียกไพ่เพิ่ม 1 ใบ แต่ถ้าไพ่ของ Banker แต้มรวมกันเท่ากับหรือมากกว่า 3 แต้ม มีกฎเรียกไพ่ดังนี้

ถ้า Banker มี 3 แต้ม และไพ่ของ Player ใบที่ 3 ได้ 8 แต้ม จบเกมส์ ฝ่าย Banker ไม่ต้องเรียกไพ่

ถ้า Banker มี 4 แต้ม และไพ่ของ Player ใบที่ 3 ได้ 0,1,8,9 แต้ม จบเกมส์ ฝ่าย Banker ไม่ต้องเรียกไพ่

ถ้า Banker มี 5 แต้ม และไพ่ของ Player ใบที่ 3 ได้ 0,1,2,3,8,9 แต้ม จบเกมส์ ฝ่าย Banker ไม่ต้องเรียกไพ่

ถ้า Banker มี 6 แต้ม และไพ่ของ Player ใบที่ 3 ได้ 0,1,2,3,4,5,8,9 แต้ม จบเกมส์ ฝ่าย Banker ไม่ต้องเรียกไพ่

ถ้า Banker มี 7 แต้ม จบเกมส์ ฝ่าย Banker ไม่ต้องเรียกไพ่

การวางเดิมพันบาคาร่า

การวางเดิมพันในแต่ละแบบอัตราการจ่ายเงินจะแตกต่างกัน โดยสามารถเลือกวางเดิมพันได้ดังนี้คือ

1.การเลือกเดิมพันฝ่าย ผู้เล่น (Player) , ฝ่าย เจ้ามือ (Banker) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 0.95:1

2.เสมอ (Tie) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 8:1

3. เจ้ามือไพ่ออกคู่ (Banker Pair) ,ผู้เล่นไพ่ออกคู่ (Player Pair) 11:1

[อ่านต่อ]

สัมผัสความสมจริงที่เหนือระดับไปกับ บาคาร่าสด สุดยอดการสร้างรายได้ในยุคปัจจุบัน ที่เหล่ามืออาชีพนั้นไว้วางใจ